พระเนื้อดินกรุเก่า ลงรักปิดทองเดิมสภาพสวยสมบูรณ์ทั้งพิมพ์ สามารถบอกได้ว่าเป็นพระที่สร้างขึ้นในสมัยอยุธยากลางถึงตอนปลาย พระมีขนาดค่อนข้างใหญ่ กว้างประมาณ 6 เซนติเมตร ยาว 10 เซนติเมตร หนาพอสมควร มีลักษณะที่สวยงามตามศิลปะพระอยุธยา โดยเฉพาะพระพิมพ์นาคปรกองค์นี้ นับว่ามีความสวยสมบูรณ์มากๆ ไม่มีการบิ่น กะเทาะหรือผ่านการสัมผัสมาก ได้รับการรับรองและตรวจสอบพระเรียบร้อยจากสถาบันการันตีพระ พร้อมออกบัตรรับรองเพื่อความมั่นใจสำหรับผู้บูชา พระโคนสมอ ฝีมือช่างหลวง สร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย อายุประมาณกาล 300 กว่าปี ถือเป็นวัตถุโบราณที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ มีความเก่าแก่ควรแก่การรักษาให้เป็นมรดกลูกหลาน การพบพระโคนสมอเหมือนจะเป็นเรื่องบังเอิญ เมื่อมีคำสั่งให้เจ้าพระยาวงศพิพัฒน์ (ม.ร.ว.เย็น อิศรเสนา) นำช่างมาซ่อมแซมพระราชวังบวรสถานมงคลหรือเรียกกันว่า " วังหน้า " ขณะทำการซ่อมแซมได้พบพระเครื่องซ่อนอยู่เป็นจำนวนมากไม่ทราบเป็นพระชื่อว่าอะไรและนำออกมาพักไว้ ณ.โคนต้นสมอ ซึ่งอยู่ในพระราชวัง เมื่อมีคนกล่าวถึงพระชุดนี้จะบอกว่าพระที่อยู่โคนต้นสมอในวัง เลยเป็นที่มาการเรียกชื่อพระโคนสมอตั้งแต่นั้นมา เมื่อค้นประวัติผู้ที่นำพระโคนสมอมาไว้ ณ.พระราชวังบวร คือสมเด็จพระบวรเจ้ามหาสุรสีหนาท กรมพระราชวังบวรในรัชกาลที่ 1 ได้นำพระโคนสมอมาจากวัดเก่าแห่งหนึ่งในอยุธยา ซึ่งคราวนั้นพระองค์ได้เสด็จไปปฏิสังขรณ์วัดสุวรรณดาราราม เมื่อต้นกรุงรัตนโกสินทร์ฯ เมื่อได้รับมอบก็ได้บรรจุเอาไว้บนเพดานท้องพระโรง พระที่นั่งศิวโมกข์ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ หรือที่เรียกกันว่า พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย ในพระราชวังบวรสถานมงคล นอกจากนี้มีการค้นพบพระลักษณะดังกล่าวตามกรุต่างๆตามวัดทั่วไป ทั้งที่พบในกรุ เจดีย์ ตามเพดานพระอุโบสถ กรุวังหน้า วัดโพธิ์ฯ วัดพระแก้ว และนอกจากนี้ยังมีขึ้นที่วัดอื่นๆอีก เช่น ในปี พ.ศ.๒๕๐๖ ที่วัดเชิงท่า จ.นนทบุรี ในปี พ.ศ.๒๕๑๐ ที่วัดสระเกศ ก็มีในเจดีย์เหมือนกันในจำนวนมาก และหากเป็นพระโคนสมอขนาดเล็ก เนื้อดินก็จะพบในกรุของ วัดประยูรฯ และวัดสระเกศ เท่านั้น แต่ถ้าเป็นเนื้อชิน จะเป็นของกรุวังหน้า และวัดพระแก้วเท่านั้น ไม่ปรากฎว่ามีขึ้นอีกในที่ใดอีก พิมพ์ที่หายากและมีมูลค่าสูงจะเป็น พิมพ์ไสยาสน์ และพิมพ์นาคปรก พระโคนสมอ มีพุทธคุณเด่นในด้าน คงกระพัน มหาอุด และนิรันตราย ในสมัยอยุธยาเวลาออกศึกจะเอาพระโคนสมอคล้องคอให้ม้าศึกและช้างศึกไว้ เมื่อปะทะกันก็จะแคล้วคลาดจาก คมหอกคมดาบของศัตรู แม้กระทั่งกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ขณะที่กลับจากการศึกษาวิชาทหารเรือที่ประเทศอังกฤษใหม่ๆ พระองค์ทรงสนพระทัยในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องและเครื่องราง ทรงให้ทหารได้นำพระวังหน้ามาทดสอบโดยยิงด้วยปืนไฟที่ทันสมัยในยุคนั้น ซึ่งปรากฏว่าปืนยิงไม่ออกหลายนัด ซึ่งพระวังหน้าดังกล่าวนี้ก็คือพระโคนสมอนั่นเอง และนอกจากนี้ตอนสงครามอินโดจีนทหารไทยได้พกพระโคนสมอติดตัวเป็นขวัญกำลังใจ และมีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขวัญว่า ข้าศึกไม่สามารถทำอะไรทหารไทยได้ ยิงไม่เข้าเหมือนทหารผีนั่นเอง นอกจากนี้เมื่อมีผู้ที่ได้นำไปบูชาได้ประสบการณ์ทางโขคลาภ ถุกหวยรางวัลที่ 1 จึงได้มีการเสาะหาเช่าบุชาทำให้พระโคนสมอในปี 2475 เช่ากันในราคาถึง 100-150 บาทซึ่งสูงมาก พุทธคุณความศักดิ์สิทธิ์ไม่ใช่ดีทางโชคลาภอย่างเดียว ดีทางด้านคงกระพันชาตรี มหาอำนาจและแคล้วคลาด